Categories
คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่มีพลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ซึ่งประชุมเมื่อวันที่4ต.ค.2560ที่ผ่านมา เห็นชอบในหลักการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์รูฟท็อปเสรีแล้ว แต่ให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน พพ. กลับไปพิจารณาในรายละเอียดการติดตั้งไฟฟ้าของครัวเรือนให้เป็นหลักเกณฑ์เดียวและให้เปิดรับซื้อให้ครอบคลุมทุกภาคเพื่อความโปร่งใส โดยพพ.จะมีการหารือกับทั้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวง ในสัปดาห์หน้า ก่อนสรุปเสนอ กบง.อีกครั้งกลางเดือน ต.ค.นี้ และเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)พิจารณาในการประชุมช่วงสิ้นเดือนต.ค. 2560
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ที่มีพลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2560 ได้เห็นชอบในหลักการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา(โซลาร์รูฟท็อป)เสรี แล้ว แต่ให้ ที่ประชุมได้ให้ทาง พพ. กลับไปพิจารณารายละเอียดบางประการ ได้แก่ เกณฑ์การติดตั้งผลิตไฟฟ้า ระยะเวลาเปิด-ปิดโครงการ และวิธีการรับสมัครเข้าร่วมโครงการ เป็นต้น
โดยหลักเกณฑ์การติดตั้งไฟฟ้าของภาคครัวเรือนนั้น ทาง พพ. จะหารือกับ การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA) ในสัปดาห์หน้า เพื่อกำหนดให้เป็นหลักเกณฑ์เดียวกัน เนื่องจากเดิม กฟน.จะกำหนดปริมาณติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปจากขนาดหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นหลัก ส่วน PEA พิจารณาการติดตั้งจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก ซึ่ง กบง.เห็นควรให้กำหนดใช้เป็นหลักเกณฑ์เดียวเพื่อให้เกิดความสะดวก โปร่งใสและเป็นธรรมรวมทั้งวิธีการรับสมัครเข้าร่วมโครงการที่ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ แต่จะมีการกำหนดปริมาณเปิดรับซื้อเป็นรายภาค ซึ่งพิจารณาตามสายส่งไฟฟ้าที่สามารถรองรับได้ และจะกำหนดระยะเวลาเปิดและปิดโครงการอย่างชัดเจนต่อไป
ส่วนปริมาณไฟฟ้าและราคารับซื้อไฟฟ้านั้น ทาง กบง.ได้เห็นชอบในหลักการแล้ว โดยปริมาณเปิดรับซื้อไฟฟ้ายังอยู่ในระดับหลักร้อยเมกะวัตต์ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจนได้ ขณะที่ราคารับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปยังอยู่ในเกณฑ์ไม่เกินราคาขายส่งที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ขายให้ กฟน.และPEA
ทั้งนี้เมื่อได้ข้อสรุปในรายละเอียดครบถ้วนแล้วจะนำเสนอกลับไปยัง กบง.อีกครั้ง ช่วงกลางเดือน ต.ค. 2560 นี้ และจะเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเปิดประชุมปลายเดือน ต.ค. นี้ โดยขั้นตอนหลังจาก กพช.เห็นชอบแล้ว ทาง พพ.กับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)จะหารือเพื่อกำหนดปริมาณรับซื้อในแต่ละภาค และประสานไปยัง กฟผ.เพื่อกำหนดโซนนิ่งและประกาศรับซื้อไฟฟ้าต่อไป
อย่างไรก็ตามคาดว่าโครงการโซลาร์รูฟท็อปเสรีจะประกาศรับซื้อไฟฟ้าได้ในปี 2561 เนื่องจากต้องรอให้จบโครงการ SPP Hybrid Firm ขนาด 300 เมกะวัตต์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการรับซื้อไฟฟ้า และโครงการ VSPP Hybrid Semi Firm ที่จะดำเนินการต่อจาก SPP Hybrid Firm ให้เสร็จสิ้นลงก่อน เพื่อจะได้ทราบถึงปริมาณสายส่งไฟฟ้าที่เหลือและกำหนดเปิดรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปเสรีต่อไป
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy news Center-ENC) รายงานว่า ก่อนหน้านี้ ทาง พพ.ได้มอบหมายให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษาโครงการโซลาร์รูฟท็อปเสรี โดยผลการศึกษาได้กำหนดรูปแบบการรับซื้อไฟฟ้าเป็น 3 กรณี ได้แก่ 1. เปิดรับซื้อปีละ 300 เมกะวัตต์ จนครบเป้าหมายที่ 6,000 เมกะวัตต์ ในปี 2579 ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาว หรือ PDP ส่วนทางเลือกที่ 2. เปิดรับซื้อปีละ 600 เมกะวัตต์ จนครบเป้าหมาย 12,000 เมกะวัตต์ ในปี 2579 และทางเลือกที่ 3. เปิดรับซื้อปีละ 1,000 เมกะวัตต์ ภายใน 3 ปี หรือครบเป้าหมายที่ 3,000 เมกะวัตต์ในปี 2563
http://energynewscenter.com/index.php/news/detail/962
Date : 05/10/2017, 14:35.
» Do not allow new products at this time.